วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

โปรแกรมเขียนแบบ Autodesk Showcase



ลักษณะโปรแกรม
Autodesk Showcase จัดเป็น โปรแกรมเขียนแบบ ที่นักออกแบบในสาขาต่าง ๆ  ใช้สำหรับช่วยประมวลผลภาพจากโมเดลสามมิติที่เขียนขึ้นมาจากโปรแกรมเขียนแบบต่าง ๆ ให้เกิดภาพเสมือนจริงที่มีความสวยงามมมากกว่าการประมวลผลแบบปกติจากโปรแกรมเขียนแบบที่ใช้งานอยู่ โดยไม่ว่าจะเป็นงานทางด้านเครื่องจักรกล งานทางด้านออกแบบเฟอร์นิเจอร์ งานออกแบบผลิตภัณฑ์ งานออกแบบตกแต่งภายใน หรืองาน Automotive ล้วนแล้วแต่สามารถที่จะใช้งาน Autodesk Showcase ได้แทนทั้งสิ้น

ซึ่งความสามารถประการแรกที่ Autodesk Showcase สามารถทำได้นั่นก็คือ โปรแกรมจะสามารถ Render ภาพจากโมเดลสามมิติ ได้สวยงามมากกว่าการ Render ที่ได้จาก อบรมเขียนแบบ ปกติทั่ว ๆ ไปเช่นการ Render โดยตรงบน AutoCAD หรือ การ Render โดยตรงจาก Inventor ภาพที่ได้จะคล้ายกับการ Render ด้วย V-ray บน 3ds Max
ข้อถัดมา โปรแกรมสามารถที่จะเปรียบเทียบในชิ้นส่วนที่แตกต่าง หรือ รูปทรง หรือ สีที่ผู้ใช้อยากจะทราบว่า แบบใด หรือสีใดที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งาน ก็สามารถที่จะนำมาทำการเปรียบเทียบเพื่อการตัดสินใจได้ในทันที
ประการที่สาม โปรแกรมสามารถที่จะสร้างไฟล์โฆษณา หรือไฟล์นำเสนออย่างง่าย ที่มีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย และสามารถสร้างได้อย่างรวดเร็ว

ประการที่ 4 หากเป็นโปรแกรมที่รวมกันอยู่ในชุด Suite ต่าง ๆ อาทิเช่น Factory Design , Product Design โปรแกมเขียนแบบ ตัวนี้ก็สามารถที่จะดึงเอาคุณสมบัติที่มีอยู่ในโปรแกรมที่สร้างโมเดลเข้ามาได้อีกด้วย อาทิเช่น การเคลื่อนไหวของชิ้นงาน หรือชิ้นงานรูปแบบอื่นที่ซ่อนอยู่

ข้อดี ของโปรแกรม Autodesk Showcase คือจากการ สอนเขียนแบบเครื่องกล ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว มีชุดคำสั่งที่รวบรัด ง่ายต่อการใช้งาน ใช้งานได้ดี ตั้งแต่การเตรียมงาน และการนำเสนอ

อีกทั้งยังมีภาพที่สวยงาม สมจริงกว่าการ Render แบบธรรมดาจากการ สอนเขียนแบบ ทั่ว ๆ ไป
และยังมีพื้นผิว สี และสภาพแวกล้อม ที่สวยงามทั้งจากที่โปรแกรมมีมาให้และ สามารถสร้างเองได้อย่างไม่จำกัด
ข้อเสียของโปรแกรมนั้นก็ต้องมีแน่นอน นั่นคือเรื่องของการที่เป็นโปรแรกมที่ใช้ทรัพยากรของเครื่องที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้บางคนอาจจะใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และอาจเสียเวลากับการ Render มากเกินไป
โปรแกรมเหมาะสำหรับ นักออกแบบที่ต้องการทำไฟล์นำเสนองานที่เป็นโมเดล 3 มิติ ที่เน้นความเสมือนจริง และต้องการโชว์ความสวยงามให้กับผู้พบเห็น และยังเหมาะกับงานที่ต้องการการเปรียบเทียบในรูปทรง หรือสีของชิ้นงานที่จะนำมาเปรียบเทียบกัน เพื่อการตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายของการทำงานอีกด้วย

ราคา โปรแกรมชุดนี้ของ Autodesk มีราคาอยู่ที่ 1,045 US โดยจะมีแถมอยู่ในชุดโปรแกรม Product Design , Factory Design


วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

โปรแกรม Autodesk Navisworks



ลักษณะโปรแกรม Autodesk Naviswork จะเป็น โปรแกรมเขียนแบบ ที่ใช้สำหรับการจัดการโครงการที่สร้างขึ้นจากโปรแกรมเขขียนแบบอื่น ๆ เช่น AutoCAD , 3ds Max , Inventor หรือ Architecture หรืออื่น ๆ อีก มากกว่า 30 ไฟล์นาสกุล ซึ่งสามารถทำงานร่วมกันกับไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ ได้ตั้งแต่ไฟล์ขนาด 10M ไปจนถึงมากกว่า 1,000M  ซึ่งการเปิดไฟล์ขนาดตั้งแต่ 50M ขึ้นไปนั้นโดยทั่วไปหากใครเคยมีประสบการณ์ก็จะพบว่าจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากอยู่แล้ว แต่เพียงแค่ผู้ใช้งานมีโปรแกรม Naviswork ติดตั้งอยู่ในเครื่องปัญหาดังกล่าวก็จะหมดไปในทันที สอนเขียนแบบ

แต่ความสามารถเด่น ๆ ของโปรแกรมก็อาจจะไม่ใช่เรื่องนี้โดยตรงหากแต่จะเป็นเรื่องของการจัดการโครงการที่จะกำหนดโดยผู้ดูแลโครงการ ซึ่งสามารถกำหนดได้ในลักษณะเดียวกันกับที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ทำกันใน Microsoft Project แต่ใน Navisworks นี้สามารถที่จะแสดงรูปแบบให้เห็นเป็นลักษณะการขึ้นโครงสร้างที่เป็นรูปแบบ 3D ได้เพื่อให้เห็นการดำเนินการของโครงการได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเดินเข้าดูโครงการเสมือนเป็นตัวบุคคลเข้าไปสำรวจได้เสมือนจริงอีกด้วย  ซึ่งจะเรียกกลุ่มคำสั่งดังกล่าวนี้ว่า Time Liner

ความสามรถอีกประการสำหรับตัวโปรแรกมก็คือ การตรวจเช็คการซ้อนทับ หรือการชนกันของ Model ที่นำมาประกอบกันได้ในทันที เนื่องจากโครงงานที่มีขนาดใหญ่นั้นจำเป็นที่จะต้องอาศัยทีมงานที่มีขนาดใหญ่ มีจำนวนผู้ใช้หลายคน การที่จะเกิดความผิดพลาดในเรื่องของโมเดลนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย โปรแกรม Autodesk Naviswork ก็จะเข้ามาช่วยผู้ใช้จัดการในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ทำให้โครงการมีความถูกต้อง และแม่นยำมากยิ่งขึ้น อบรมเขียนแบบ

โปรแกรม Autodesk Navisworks นั้นยังแบ่งได้เป็น 3 ระดับนั่นคือ โปรแกรม Autodesk Navisworks Freedom ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดแต่เป็นระดับที่เปิดให้ใช้งานได้ฟรี ๆ เพียงแต่ว่าเหมาะกับการเปิดดูไฟล์ที่ถูกส่งมาได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ระดับที่สอง คือ Autodesk Navisworks Simulate คือระดับที่สามารถสร้างระบบ 4D Time Liner ให้กับโครงการได้
และระดับสุดท้ายก็คือ Autodesk Navisworks Manage คือระดับที่สามารถตรวจเช็คการเหลื่อมชนกันของโมเดลภายในโครงการได้ในทันทีภายใต้เงื่อนไขที่ผู้ใช้กำหนดขึ้นเอง

ข้อดีของโปรแกรม คือสามารถเปิดไฟล์ได้มากกว่า 30 ไฟล์ หรือเรียกได้ว่าแทบจะทุกไฟล์ CAD ที่มีในโลกเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังใช้ทรัพยากรเครื่องที่ต่ำ มีคำสั่งการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน มีการนำเสนอที่ชัดเจน สามารถตรวจเช็คได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือทักษะการใช้งานมาก่อน สอนเขียนแบบเครื่องกล

ข้อเสียคือโปแรกรมนี้สามารถบันทึกไฟล์ได้เฉพาะนามสกุลของ Navisworks อีกทั้งตำราหรือแหล่งที่ใช้ศึกษาในเมืองไทยหาได้ยากมาก และมีผู้ที่มีความเชี่ยวชาญนั้นหาได้น้อย อีกทั้งราคาในชุด Manage นั้นมีราคาสูงกว่า Simulate มากกว่า 2 เท่าทีเดียว


วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557

การใช้งาน Autodesk Inventor

การใช้งานโปรแกรม Autodesk Inventor

โปรแกรม Autodesk Inventor เป็น โปรแกรมเขียนแบบ ทางวิศวกรรมเครื่องกล ที่มีความเป็นโปรแกรมที่ใช้งานได้อย่างง่ายดายมากโปรแกรมหนึ่ง เป็นโปรแกรมที่เหมาะกับผู้ใช้งานที่ไม่เคยใช้งานโปรแกรมเขียนแบบใด ๆ มาก่อน โดยหน้าจอการใช้งานถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหน้าจอจะใกล้เคยีงกับหน้าจอของ Microsoft Office เป็นอย่างมากทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นที่จะต้องปรับตัวนาน
โปรแกรม inventor นั้นจะเป็นโปรแกรมซึ่งแตกต่างจาก AutoCAD โดยสิ้นเชิง ... ที่ยก AutoCAD มาเปรียบเทียบเนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่จะรู้จัก AutoCAD มากกว่าเพราะเป็นโปรแกรมที่เกิดขึ้นมานานกว่าทาง inventor ซึ่ง Inventor นั้นจะทำงานเน้นไปที่งาน 3D 95% ทีเดียวโดยจุดเด่นของโปรแกรมอยู่ที่ การสร้างชิ้นงานในลักษณะ 3D จะเน้นไปที่การแก้ไขที่ง่ายมากกว่าการเขียนที่ง่ายเหมือนโปรแกรม AutoCAD

ซึ่งหลาย ๆ ที่ สอนเขียนแบบ คนที่ใช้จะทราบดีอยู่แล้วว่าหากต้องการจะแก้ไขไฟล์ที่เขียนจาก AutoCAD นั้นทำได้ยากหรือทำไม่ได้เลย หากจะแก้ไขนั้นจำเป็นที่จะต้องลบแล้วเขียนใหม่ในจุดที่ต้องการจะแก้ไข เพียงแต่การแก้ไขนั้นอาจจะสามารถทำได้อย่างรวดเร็วตามความสามารถของ User
แต่ในส่วนของ Autodesk Inventor จะเป็นโปรแกรมที่เขียนได้ช้ากว่า หรือซับซ้อนกว่าเล็กน้อย เนื่องจากต้องมีการอ้างอิงกับระบบที่เป็น Parametric แต่เมื่อถึงขั้นตอนการแก้ไขนั้นจะสามารถแก้ไขได้รวดเร็วกว่าโปรแกรม AutoCAD หลายเท่าตัว 

เพราะฉะนั้นหากผู้ใช้ที่ต้องการสร้างเครื่องจักรขนาดใหญ่ หรือ ระบบ Jig & Fixture  และหากยิ่งมีความซับซ้อนสูง ต้องการทดสอบการเคลื่อนไหวของเครื่องจักรแล้วละก็ Autodesk Inventor จะเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับการใช้งานในลักษณะนี้ อบรมเขียนแบบ

โปรแกรมแบ่งออกเป็น 3 รุ่นก็คือ
-                    Autodesk Inventor LT
o   ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เหมาะกับการทำชิ้นงาน 3D ที่ง่าย ไม่ซับซ้อน และสามารถสร้างได้เพียงชิ้นต่อชิ้นเท่านั้น ผู้ใช้ไม่สามารถที่จะนำชิ้นส่วนต่าง ๆ มาประกอบรวมกันได้
-                    Autodesk Inventor
o   เป็นโปรแกรมที่เหมาะกับการทำงานแบบที่สามารถนำชิ้นงาน ชิ้นส่วนต่าง ๆ มาประกอบเข้ากันได้ Assembly สามารถเขียนในเครื่องจักรขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ , Jig & Fixture ต่าง ๆ รวมถึงแผ่นพับ Sheet Metal , และการเชื่อมประกอบ อีกทั้งยังมี Part Standard ที่เป็นชิ้นส่วนมาตรฐานสามารถนำมารวมกันประกอบได้ทันทีอีกด้วย
-                    Autodesk Inventor Professional
o   เป็นโปรแกรมที่เหมาะกับการทำงานเหมือนกับ Autodesk Inventor แต่เพิ่มความสามารถในด้านวิศวกรรม เพื่อทำนายการแตกหักหรือวิเคราะห์ความเค้นภายในชิ้นงานที่เกิดจากแรงที่มากระทำได้อีกด้วย
โปรแกรมทั้งสามรุ่นนั้นมีความแตกต่างกันในเรื่องของคามสามารถและราคาที่ค่อนข้างต่างกันดังนั้นหากผู้ใช้สามารถเลือกได้ตรงกับงานที่ทำอยู่ก็จะสามารถลดเวลาการทำงาน อีกทั้งลด Cost ที่เกิดขึ้นได้อย่างมากมายทีเดียว

 ผู้เขียน : อลงกรณ์

วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557

What's new Autodesk Inventor



โปรแกรม autodesk inventor เป็น โปรแกรมเขียนแบบ ทางวิศวกรรมที่ผู้ รับสอนเขียนแบบ นิยมใช้งานกันมานาน ในเวอร์ชั่นนี้สิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่นั้น ทำให้ผู้ใช้งานโปรแกรมทำงานได้อย่างอิสระ และคล่องตัวมากขึ้น 

สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นนี้ได้แก่ ฟังก์ชั่นการทำงานในเรื่องของ 2D Sketch ที่การใช้ Constraint ซึ่งมักมีปัญหาอย่างมากกับผู้ใช้ กล่าวคือ Constraint นั้นจะทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมการเขียนภาพ Sketch ได้อย่างอิสระ ซึ่งหากผู้ใช้ต้องการใช้แบบอิสระ รูปทรงของภาพสเกตช์ ก็จะไม่มีความสเถียรเท่าที่ควร (รูปทรงสามารถเปลี่ยนแปลงได้แต่คาดเดาการปลี่ยนไปของรูปทรงไม่ได้ ) ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นทำให้ใช้งานง่ายและสะดวก

สิ่งต่อไปที่มีการ Update ในเวอร์ชั่นนี้ก็คือเรื่องของการขึ้นรูปชิ้นงานแบบ Freeform ซึ่งจะเพิ่มกลุ่มคำสั่ง Freeform เข้ามาทำให้สามารถสร้างหรือแก้ไข จัดการรูปทรงอิสระได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วมากกว่าเวอร์ชั่นเดิม ๆ ที่ผ่านมา
มีความเป็นไปได้มากที่ผู้ สอนเขียนแบบเครื่องกล และผู้เขียนแบบทางวิศวกรรมจำเป็นที่จะต้องใช้งานในรูปทรงอิสระ และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องการให้ไฟล์งานที่เขียนขึ้นนั้นมีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ทั้งนี้ไฟล์ที่มีขนาดเล็กจะทำให้ผู้ใช้มีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้นในการทำงาน การ Assembly  และการที่จะทำให้ไฟล์งานนั้นมีขนาดเล็กที่สุด ก็จำเป็นที่จะต้องทำให้ Feature ของไฟล์นั้น ๆ มีจำนวนน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ซึ่งในกลุ่มคำสั่งใหม่ที่เพิ่มเข้ามานั้นจะเข้ามาช่วย ณ จุดนี้ด้วย

ในเรื่องของงาน Assembly จะมีเรื่องของการทำงานบน Express โหมดที่เป็นโหมดในการทำงานเกี่ยวกับไฟล์ประกอบชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่ ๆ ซึ่งคำสั่ง Express mode จะทำให้เปิดไฟล์ใหญ่ ๆ ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเร็วขึ้นประมาณ 2-10 เท่าจากเดิม
แต่ในเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้คือเวอร์ชั่น 2014 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นแรกที่มีการใช้งาน Express Mode ในขณะที่ผู้ใช้ต้องการแก้ไขไฟล์ชิ้นงานที่หน้า Assembly นั้นผู้ใช้ต้อง Open ไฟล์ขึ้นมาเท่านั้นซึ่งจะไม่สามารถ Edit ได้โดยตรงที่หน้า Assembly เลยทำให้เสียเวลาและเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งสำหรับนักออกแบบ อบรมเขียนแบบ

ในเวอร์ชั่น 2015 นี้จึงได้มีการปรับปรุงในเรื่องนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะทำการ Edit แก้ไขไฟล์ชิ้นงานได้โดยตรงที่หน้า Assembly เหมือนกับการแก้ไขที่ทำได้ในโหมดการใช้งานปกติ

นอกจากนั้นการอัพเดทยังมีส่วนเล็กน้อยอย่างอื่นอาทิเช่น หน้าจอ Welcome Screen ใหม่ ๆ ช่องทางของบทเรียนออนไลน์ ที่เพิ่มเข้ามาทำให้ผู้ใช้งานเข้าถึงแหล่งเรียนรู้จากทาง Autodesk ได้รวดเร็วและหลากหลายมากยิ่งขึ้น

ผู้เขียน : อลงกรณ์
โปรแกรมเขียนแบบ , สอนเขียนแบบ